ปุณณิกาเถรีคาถา

[๒๓๖] เราเป็นคนตักน้ำ กลัวต่อภัยคืออาชญาของเจ้านาย

ถูกภัยวาจาและโทสะของเจ้านายบีบคั้น

จึงลงตักน้ำเป็นประจำ แม้หน้าหนาว

[๒๓๗] ท่านพราหมณ์ ท่านกลัวอะไรนะ จึงลงอาบน้ำเป็นประจำ

ทั้งมีตัวสั่นเทา มีความหนาวอย่างหนัก

พราหมณ์กล่าวตอบด้วยภาษิตเหล่านี้ว่า

[๒๓๘] แม่ปุณณาผู้เจริญ ก็ท่านรู้อยู่ว่า

ฉันกำลังทำกุศลกรรม อันจะปิดกั้นบาปกรรม

ที่ตัวได้ก่อไว้ ยังจะสอบถามอีก

ผู้ใดไม่ว่าแก่หรือหนุ่มก่อบาปกรรมไว้

แม้ผู้นั้นย่อมพ้นจากบาปกรรมได้อย่างสิ้นเชิงก็เพราะการอาบน้ำ

(พระปุณณาเถรีกล่าวภาษิตเหล่านี้ว่า)

[๒๔๐] ใครหนอช่างไม่รู้ มาบอกความนี้แก่ท่านซึ่งไม่รู้ว่า

คนจะพ้นจากบาปกรรมได้ก็เพราะการอาบน้ำ

[๒๔๑] พวกกบ เต่า งู จระเข้ และสัตว์เหล่าอื่น
ที่เที่ยวหากินอยู่ในน้ำทั้งหมดก็คงพากันไปสวรรค์แน่แท้
[๒๔๒] คนฆ่าแกะ คนฆ่าสุกร ชาวประมง พรานเนื้อ
โจร เพชฌฆาต และคนที่ก่อบาปกรรมอื่น ๆ แม้เหล่านั้น
ก็จะพึงพ้นจากบาปกรรมได้เพราะการอาบน้ำ

[๒๔๓] ถ้าแม่น้ำเหล่านี้จะพึงนำบาปที่ท่านก่อไว้แต่ก่อนไปได้
แม่น้ำเหล่านี้ก็จะพึงนำทั้งบุญของท่านไปด้วย
ท่านก็จะพึงเป็นผู้ห่างจากบุญกรรมนั้นไป
[๒๔๔] ท่านพราหมณ์ ท่านกลัวบาปใด จึงลงอาบน้ำเป็นประจำ
ท่านก็อย่าได้ทำบาปอันนั้น
ขอความหนาวเย็นอย่าได้ทำลายผิวท่านเลย
(พราหมณ์กล่าวตอบด้วยภาษิตว่า)
[๒๔๕] ท่านนำฉันผู้เดินทางผิดมาสู่ทางที่พระอริยะเดินแล้วด้วยดี
แม่ปุณณาผู้เจริญ ฉันขอถวายผ้าสาฏกสำหรับสรงน้ำนี้แก่ท่าน
(พระปุณณาเถรีได้กล่าวตอบด้วยภาษิตเหล่านี้ว่า)
[๒๔๖] ผ้าสาฏกจงเป็นของท่านตามเดิมเถิด เราไม่ต้องการผ้าสาฏก
ถ้าท่านกลัวทุกข์ ถ้าทุกข์ไม่น่ารักสำหรับท่าน
[๒๔๗] ท่านก็อย่าได้ก่อกรรมชั่วทั้งในที่แจ้งและในที่ลับ
ถ้าท่านจะทำ หรือกำลังทำกรรมชั่ว
[๒๔๘] ท่านถึงจะเหาะหนีไป ก็ไม่พ้นจากทุกข์ไปได้เลย
ถ้าท่านกลัวทุกข์ ถ้าทุกข์ไม่น่ารักสำหรับท่าน
[๒๔๙] ท่านจงถึงพระพุทธเจ้า พระธรรม และพระสงฆ์ ผู้คงที่
ว่าเป็นที่พึ่งที่ระลึกเถิด จงสมาทานศีล
ข้อนั้นแหละจะเป็นความหลุดพ้นแก่ท่าน
(พราหมณ์กล่าวตอบด้วยภาษิตเหล่านี้ว่า)
[๒๕๐] ฉันขอถึงพระพุทธเจ้า พระธรรม และพระสงฆ์ ผู้คงที่
ว่าเป็นที่พึ่งที่ระลึก ขอสมาทานศีล ข้อนั้นจะเป็นประโยชน์แก่ฉัน
[๒๕๑] เมื่อก่อน ฉันเป็นเผ่าพันธุ์แห่งพระพรหม
วันนี้ ฉันเป็นพราหมณ์จริง ฉันได้วิชชา ๓ มีความสวัสดี
จบเวท และเป็นผู้ล้างบาปได้แล้ว
โสฬสกนิบาต จบ

กลับหน้าเดิม

กลับสารบัญ