ความเนื่องสัมพันธ์กันของกิเลสตัณหาอุปาทาน โดยปฏิจจสมุปบาทธรรม
|
|
อาสวะกิเลส สังขารกิเลส ตัณหา อุปาทาน นั้นล้วนเป็นองค์ธรรมในปฏิจจสมุปบาท จึงมีความเนื่องสัมพันธ์กัน เป็นเหตุเป็นปัจจัยกันจนยังให้เกิดทุกข์อุปาทานขึ้นดังโยนิโสมนสิการได้จากปฏิจจสมุปบาทธรรม มักเรียกกันโดยย่อเป็นที่ทั่วไปว่ากิเลสตัณหาอุปาทาน หรือกิเลสตัณหาอาสวะ หรือเรียกรวมกันสั้นๆว่ากิเลสตัณหา ตลอดจนเรียกรวมกันโดยทั่วไปว่ากิเลสไปเลย มีความเนื่องสัมพันธ์กันดังแผนภูมิที่แสดงเป็นวงจร ได้ดังนี้
อาสวะกิเลส
กิเลส
อุปาทาน
ตัณหา
กล่าวคือ ทั้ง ๔ ที่เกิดขึ้นและเป็นไปนั้น ตามความเป็นจริงแล้วก็ล้วนคือธรรมหรือสิ่งเดียวกันนั่นเอง เพียงแต่จำแนกแตกธรรมหรือจำแนกแจกแจงการทำงานไปตามหน้าที่บ้างเท่านั้น กล่าวคือเมื่อประกอบด้วยเหตุปัจจัยใดก็ยังให้ทำหน้าที่นั้นๆระบุเฉพาะเจาะจงลงไปเท่านั้นเอง ดังเช่น เหล่ากิเลสเมื่อสั่งสมนอนเนื่องที่รอเวลาซึมซ่านย้อมจิตให้ขุ่นมัวเมื่อประสบกับอารมณ์ ก็เรียกกิเลสชนิดนี้เจาะจงลงไปว่าอาสวะกิเลส แต่เมื่อเป็นเหตุปัจจัยร่วมกับอวิชชา ก็ระบุเฉพาะเจาจงลงไปว่าจึงมีสังขาร อันย่อมเป็นสังขารกิเลสหรือกิเลสขึ้นนั่นเอง แล้วดำเนินไปตามวงจรปฏิจจสมุปบาท จนเป็นเหตุปัจจัยจนทำหน้าที่เป็นตัณหา และอุปาทานเป็นลำดับในที่สุด แล้วเมื่อมรณะดับไปก็ยังเก็บจำสั่งสมเป็นอาสวะกิเลสสืบเนื่องต่อไปอีกนั่นเอง ทั้งสั่งสมและรอวันกำเริบเสิบสาน กล่าวคือ เมื่อจิตประสบกับอารมณ์ต่างๆก็ไหลไปซึมซาบขึ้นมาย้อมจิตทันที ให้เป็นทุกข์ขึ้นอีก จึงเป็นวงจรอุบาทก์ที่ทำให้เวียนว่ายตายเกิดในสังสารวัฏไม่รู้จักจบสิ้น
กล่าวคือ เกิดแต่กิเลสอย่างละเอียดคืออาสวะกิเลสที่นอนเนื่องอยู่ในสันดาน แล้วไหลซึมซาบขึ้นย้อมจิตเมื่อไปประสบกับอารมณ์ต่างๆเข้า จึงเกิดเป็นสังขารกิเลส อันเป็นกิเลสขั้นกลาง เป็นความคิดนึกการพูดการกระทำขึ้น อันเป็นเหตุแล้วดำเนินไปตามปฏิจจสมุปบาทธรรมจนในที่สุด จึงมีกิเลสขั้นหยาบคือตัณหา จึงมีอุปาทาน จึงแสดงออกมาเป็นผลคือสังขารขันธ์ทางกาย วาจา ใจ ที่ประกอบด้วยอุปาทานใน ชาติและชราในที่สุด
องค์ธรรมสังขารในปฏิจสมุปบาท ถ้าจำแนกแยกแยะอย่างละเอียดถึงที่สุดแล้ว จัดว่าเป็นสังขาร ที่หมายถึงสิ่งปรุงแต่งทางใจ ที่ยังให้เกิดการกระทำหรือกรรม จึงเกิดแต่ทางใจหรือจิตเป็นสำคัญทีเดียว แล้วจึงทำให้เกิดการกระทำทางกาย วาจา ใจขึ้น แต่โดยทั่วไปเมื่อกล่าวถึงสังขารในปฏิจจสมุปบาทนี้แล้ว ก็มักหมายครอบคลุมไปถึง การกระทำ(ที่ย่อมแฝงกิเลส)ที่มีเจตนา ทั้งทางกาย วาจา ใจ ไปเลย เพื่อให้ง่ายต่อการพิจารณาหรืออธิบาย.