สูตรเว่ยหล่าง |
|
เพียงส่วนหนึ่งของ สูตรเว่ยหล่าง แปลไทยโดย ท่านพุทธทาส
ขอขอบคุณข้อมูลจาก https://kowit.org/wp-content/uploads/2015/10/wei_lang.pdf หน้าที่ ๘๖
อาตมามี โศลกโคลง "อันไม่เกี่ยวกับรูปธรรม" อยู่บทหนึ่ง ซึ่งการท่องและปฏิบัติตามโศลกโคลงนี้ จะสามารถเพิกถอนอวิชชาให้สูญไป
และชำระล้างบาป อันได้สั่งสมอบรมมานานนับด้วยกัลป์ได้โดยสิ้นเชิง โศลกโคลงนั้นมีดังนี้
พวกที่จมอยู่ในความเขลา ย่อมมัวแต่สะสมบุญอันแปดเปื้อน(ด้วยการลูกคลำของตัณหาและทิฏฐิ)*๑ ไม่ไต่ไปตามมรรคปฏิปทา
พวกนี้ตกอยู่ภายใต้ความรู้สึก ว่าการสะสมบุญ กับการไต่ไปตามมรรคปฏิปทานั้น เป็นของสิ่งเดียวกันและอย่างเดียวกัน
แม้ว่าบุญของพวกนี้ อันเกิดจากให้ทานและการบูชา จะมีมากหาประมาณไม่ได้
เขาก็ไม่เห็นแจ้งว่า วิถีทางมาอันเฉียบขาดของบาปนั้น เนื่องกับมูลธาตุ อันมีพิษร้ายสามประการ (คือ โลภ โกรธ หลง) อันมีอยู่ในใจของตนเอง
เขาคิดจะเปลื้องบาปของเขาได้ ด้วยการสะสมบุญ โดยหารู้ไม่ว่า ความสุขที่เขาจะได้รับในชาติหน้านั้น ไม่มีอะไรเกี่ยวกับการเปลื้องบาปนั้นเลย
ทำไมจึงไม่เปลื้องบาป (ด้วยวิธีที่ทำกัน)ภายในใจของตนเอง เพราะนั่นแหละเป็นการชำระบาป(ภายในจิตเดิมแท้ของเรา) อย่างแท้จริง
คนบาปที่ได้มีความเห็นแจ้งขึ้นในทันทีทันใด ว่าอะไรจะนำมาซึ่งการสำนึกบาป อย่างแท้จริง ตามวิธีของนิกายมหายาน
และได้เลิกละเด็ดขาดจากการทำบาป ทำแต่ความดี นี่แหละคือ ผู้หมดบาป
ผู้ไต่ไปตามมรรคปฏิปทา ซึ่งกำหนดอยู่ในจิตเดิมแท้อยู่เนื่องนิจนั้น ควรถูกจัดเข้าในระดับชั้นเดียวกันกับ พุทธบุคคล อันมีประเภทต่างๆ
พระสังฆปรินายกของเราที่แล้วๆมาไม่ค่อยสอนระบบธรรมอย่างอื่นเลย นอกจากระบบ "ฉับพลัน" นี้เท่านั้น
ขอให้ผู้ปฏิบัติตามระบบนี้ทุกคน จงเห็นอย่างเผชิญหน้าต่อจิตเดิมแท้ของตน และอยู่กับพระพุทธเจ้านั้นได้ในทันที
ถ้าท่านกำลังแสวงหาธรรมกาย ก็จงมองให้สูง เหนือขึ้นไปจากลักษณะธรรมดา(ปรากฏการณ์ต่างๆ) แล้วจิตเดิมแท้ของท่านก็จะบริสุทธิ์
จงตั้งตัวมั่น ในความมุ่งหมายที่เห็นจิตเดิมแท้อย่างเผชิญหน้าไม่ถอยหลัง
เพราะความตายอาจมาถึงโดยปัจจุบัน และทำชีวิตในโลกนี้ของท่าน ให้สิ้นสุดโดยทันที
ผู้เข้าใจคำสอนตามหลักแห่งมหายาน และอยู่ในฐานะที่มองเห็นจิตเดิมแท้เช่นนี้
ควรจะกระพุ่มมือทั้งสองเข้าด้วยกันอย่างนอบบ้อม (ด้วยอาการเคารพ) แล้วแสวงหาธรรมกาย ด้วยความกระตือรือล้นเถิด
พระสังฆปรินายกได้กล่าวเสริมอีกว่า :
ท่านผู้คงแก่เรียนทั้งหลาย ท่านทั้งหลาย ควรสาธยายโศลกนี้ และปฏิบัติตาม ถ้าท่านเห็นจิตเดิมแท้ของท่านหลังจากสาธยายแล้ว
ท่านก็จะเห็นได้เองว่า ท่านได้อยู่ในที่เฉพาะหน้าของอาตมาตลอดไป แม้ว่าตามที่แท้ท่านอยู่ห่างออกไปตั้งพันๆไมล์
แต่ถ้าท่านไม่สามารถทำได้ แม้เราจะอยู่จ่อหน้ากันอย่างนี้ โดยที่แท้เราก็อยู่ห่างกันตั้งพันๆไลล์นั่นเอง
เมื่อเป็นเช่นนั้น จะมีประโยชน์อะไรในการที่ท่านทนทรมานเดินทางมาจนถึงที่นี่ จากที่อันไกลแสนไกล? จงระวังตัวของท่านให้ดี อาตมาลาก่อน
บรรดาผู้มาประชุมกันนั้น เมื่อได้ฟังพระสังฆปรินายกกล่าวจบแล้ว ได้พากันรู้แจ้ง ด้วยอาการอันปลื้มปิติ เขาพากันรับคำสอน และนำไปปฏิบัติ
*๑ บุญ ก็เป็นสิ่งแปดเปื้อนหรือมีราคี เพราะบุญทุกอย่างต้องอาศัย"ตัณหา"และ"ทิฏฐิ" หรืออย่างใดอย่างหนึ่ง จึงเกิดขึ้นได้
ที่เป็นชั้นสูง เช่น ทิฏฐิที่ยังสำคัญว่าตัวตนบังคับให้ทำดีอย่างนั้นอย่างนี้เพื่อตัวตนเช่นนี้ บุญนี้ ชื่อว่ายังถูกทิฏฐิ หรืออุปาทานลูบคลำอยู่
ถ้าสูงพ้นนี้ไป คือ มีความรู้สึกในความไม่มีตัวตน ทำอะไรก็พ้นจากการเป็นบุญเสียแล้ว
จึงมีหลักตายตัวว่า บุญทุกชนิดต้องแปดเปื้อน แต่เป็นความแปดเปื้อนที่ถือกันว่าสวย เช่นการ เขียนปาก เขียนคิ้ว ของคนในสมัยนี้ เป็นตัวอย่าง
บุญย่อมนำหรือส่งเสริมให้เกิดภพใดภพหนึ่งเสมอไป ซึ่งทำให้มีการเกิด แก่ เจ็บ ตาย ทางพุทธศาสนาจึงถือว่า
แม้บุญก็มีพิษร้ายเท่ากับบาป แต่ว่าลึกซึ้งเกินกว่าคนธรรมดาจะมองเห็น
และเมื่อเขายังไม่สามารถทำอะไรให้สูงไปกว่านั้นได้ จึงให้ทำบุญกันไปก่อน ดีกว่าทำบาป แต่เมื่อเห็นความจริง
เมื่อนั้น จะเบื่อบุญเท่ากับบาป และหลุดพ้นเป็นพระอรหันต์ - ผู้แปลไทย