กลับสารบัญ

สักกสูตร

พุทธพจน์และพระสูตร - ๘๓

พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๐

 คลิกขวาเมนู

             [๕๑๓] ๗๔. สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ นิโครธาราม ใกล้กรุงกบิลพัสดุ์ แคว้นสักกชนบท

ก็โดยสมัยนั้นแล พระผู้มีพระภาคทรง เป็นไข้ หายจากความไข้ไม่นาน

ครั้งนั้นแล เจ้ามหานามศากยะเสด็จเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ

ทรงถวายบังคมพระผู้มีพระภาคแล้ว ประทับนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง

ครั้นแล้วทูลถามว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ นานมาแล้ว ที่ข้าพระองค์รู้ทั่วถึงธรรมที่พระองค์ทรงแสดงอย่างนี้ว่า

ญาณเกิดแก่ผู้มีใจเป็นสมาธิ  หาเกิดแก่ผู้ที่มีใจไม่เป็นสมาธิไม่

ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ  สมาธิเกิดก่อน ญาณเกิดทีหลัง  หรือว่าญาณเกิดก่อน สมาธิเกิดทีหลัง

ลำดับนั้นแล ท่านพระอานนท์ได้มีความดำริว่า พระผู้มีพระภาคทรงเป็นไข้ หายจากความไข้ไม่นาน

ก็เจ้ามหานามศากยะนี้ทูลถามปัญหาที่ลึกซึ้งกะพระผู้มีพระภาค

ถ้ากระไร เราควรนำเอาเจ้ามหานามศากยะหลีกไปในที่ควรส่วนข้างหนึ่ง แล้วแสดงธรรม

ครั้งนั้นแล ท่านพระอานนท์ จับพระพาหาเจ้ามหานามศากยะนำหลีกไป ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง

แล้วกล่าวกะเจ้ามหานามศากยะว่า ดูกรมหานามะ พระผู้มีพระภาคตรัสศีลที่เป็นของพระเสขะไว้ก็มี

ตรัสศีลที่เป็นของพระอเสขะไว้ก็มี ตรัสสมาธิที่เป็นของพระเสขะไว้ก็มี  ตรัสสมาธิที่เป็นของพระอเสขะไว้ก็มี

ตรัสปัญญาที่เป็นของพระเสขะไว้ก็มี  ตรัสปัญญาที่เป็นของพระอเสขะไว้ก็มี

ดูกรมหานามะ มีศีลที่เป็นของพระเสขะเป็นไฉน

ดูกรมหานามะ ภิกษุในธรรม วินัยนี้ เป็นผู้มีศีล ฯลฯ สมาทานศึกษาอยู่ในสิกขาบททั้งหลาย

ดูกรมหานามะ นี้เรียกว่า ศีลที่เป็นของพระเสขะ

ดูกรมหานามะ ก็สมาธิที่เป็นของพระเสขะ เป็นไฉน

ดูกรมหานามะ ภิกษุในธรรมวินัยนี้ สงัดจากกาม ฯลฯ เข้าจตุตถฌานอยู่

ดูกรมหานามะ นี้เรียกว่าสมาธิที่เป็นของพระเสขะ

ดูกรมหานามะ ก็ปัญญาที่เป็นของพระเสขะเป็นไฉน

ดูกรมหานามะ ภิกษุในธรรมวินัยนี้ รู้ชัด ตามความเป็นจริงว่า

นี้ทุกข์  นี้เหตุแห่งทุกข์  นี้ความดับทุกข์  นี้ข้อปฏิบัติให้ถึงความดับทุกข์

ดูกรมหานามะ นี้เรียกว่า ปัญญาที่เป็นของพระเสขะ ฯ

             ดูกรมหานามะ พระอริยสาวกนั้นแล

เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยศีลอย่างนี้ (จึง)ถึงพร้อมด้วยสมาธิอย่างนี้  (จึง)ถึงพร้อมด้วยปัญญา(ญาณ)อย่างนี้

ทำให้แจ้งซึ่งเจโตวิมุติ  ปัญญาวิมุติ  อันหาอาสวะมิได้

เพราะอาสวะทั้งหลายสิ้นไป ด้วยปัญญาอันยิ่งเอง ในปัจจุบันเข้าถึงอยู่

ดูกรมหานามะ พระผู้มีพระภาคได้ตรัสศีลที่เป็นของพระเสขะไว้ก็มี  ตรัสศีลที่เป็นของพระอเสขะไว้ก็มี

ตรัสสมาธิที่เป็นของพระเสขะไว้ก็มี  ตรัสสมาธิที่เป็นของพระอเสขะไว้ก็มี

ตรัสปัญญาที่เป็นของพระเสขะไว้ก็มี  ตรัสปัญญาที่เป็นของพระอเสขะไว้ก็มี ด้วยประการฉะนี้แล ฯ

  

จึงเป็นการกล่าวแสดงถึงสมาธิ เป็นปัจจัยเครื่องหนุนให้เกิดปัญญา จึงเป็นการหลุดพ้นที่ไม่กลับกลายหายสูญของพระอเสขะ 

กลับหน้าเดิม

กลับสารบัญ